อาการนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ อาจใกล้เคียงกับอาการของโรคอื่นอีกหลายโรค จึงมักสร้างความสับสน จนบางครั้งทำให้ตรวจพบล่าช้า กลายเป็นอันตรายกับร่างกาย ส่งผลให้อวัยวะเสียหายถาวร ดังนั้นหากเราหมั่นใส่ใจสุขภาพ รู้จักสังเกตอาการตั้งแต่แรก อาจเพิ่มการดูแลตัวเอง ด้วยการดื่มน้ำเยอะ ๆ ทานสมุนไพรสลายนิ่ว ซึ่งอาจช่วยให้นิ่วสลายและขับนิ่วหลุดออกเองได้ ก่อนที่จะสะสมจนกลายเป็นนิ่วก้อนใหญ่ จนต้องใช้วิธีผ่าตัดแทน
1. นิ่วในกระเพาะปัสสาวะอันตรายไหม? ทำไมต้องรีบดูแล?
นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ (Bladder Stones) เกิดจากการสะสมของแร่ธาตุ อาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง หรือมีอาการปัสสาวะผิดปกติ ซึ่งไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายโดยตรง แต่หากนิ่วอุดกั้นทางเดินปัสสาวะ จนปัสสาวะไหลย้อนขึ้นด้านบน อาจทำให้เกิดไตวายเฉียบพลัน หรือหากน้ำปัสสาวะสะสมคั่งค้างนาน ๆ กระเพาะปัสสาวะอาจกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อ ซึ่งหากการติดเชื้อลุกลาม อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
2. อาการนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ต้องใส่ใจ อย่าปล่อยทิ้งไว้ !
- ปวดหน่วงท้องน้อย
อาการที่พบบ่อยเป็นอันดับต้น ๆ แต่หลายคนไม่ได้ใส่ใจ เพราะเป็นอาการปวดหน่วงที่ไม่รุนแรง อาจแค่ปวดตื้อเป็น ๆ หาย ๆ หรือปวดแปล๊บบางครั้งเวลาปัสสาวะ ไม่ได้รบกวนชีวิตมากนัก จึงมักถูกละเลยอยู่เสมอ - ปวดร้าวลงอวัยวะเพศ
นอกจากจะปวดที่ท้องน้อย ตรงตำแหน่งของกระเพาะปัสสาวะแล้ว บางครั้งยังอาจปวดร้าวลงอวัยวะเพศ หรือร้าวไปที่อัณฑะได้ด้วย - เบ่งปัสสาวะลำบาก
หากมีนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ อาจต้องใช้เวลาเบ่งนานในการเริ่มปัสสาวะ เพื่อให้มีแรงดันมากพอ ที่จะทำให้นิ่วหลุดออกจากตำแหน่งของรูเปิดท่อปัสสาวะได้ - ปัสสาวะบ่อย
เป็นอาการนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ที่เริ่มจากการมีปัสสาวะสะดุดเป็นช่วง ๆ ทำให้มีน้ำปัสสาวะเหลือค้างในกระเพาะปัสสาวะตลอดเวลา ซึ่งส่งผลกระตุ้นระบบประสาท ทำให้ต้องการปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ โดยเฉพาะปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน - กลั้นปัสสาวะไม่อยู่
ในคนที่มีปัญหาต่อมลูกหมากโต หากมีปัสสาวะเหลือค้างในกระเพาะปัสสาวะนาน ๆ อาจทำให้กล้ามเนื้อหูรูดทำงานผิดปกติ จนกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ และมีอาการปัสสาวะเล็ด ปัสสาวะราดได้ - ปัสสาวะปนเลือด
หากมีการระคายเคืองกระเพาะปัสสาวะอย่างรุนแรง จะทำให้มีเลือดปนในปัสสาวะ หรือถ้าเป็นก้อนนิ่วในไตที่ไหลลงมาในกระเพาะปัสสาวะ อาจเห็นปัสสาวะเป็นสีน้ำตาลหรือสีแดงจาง และอาจพบลิ่มเลือดลักษณะยาวคล้ายท่อ ซึ่งบ่งบอกถึงการระคายเคืองของท่อไตร่วมด้วย - ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
หากมีอาการปวดหน่วงท้องน้อย, มีไข้, คลื่นไส้อาเจียน, ปัสสาวะขุ่นหรือมีเลือดปน ร่วมกับอาการปัสสาวะผิดปกติต่าง ๆ ให้นึกถึงการติดเชื้อ ที่ทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบไว้เสมอ
3. ดูแลและป้องกันตัวเองจากนิ่ว ด้วยสมุนไพร Uherbal
- ขับนิ่วในทางเดินปัสสาวะ
สมุนไพรสลายนิ่วหลายชนิดในยูเฮอร์เบิล ทั้งโสมเกาหลี, ถั่งเช่า, เห็ดหลินจือ, กระเจี๊ยบแดง, เมล็ดฟักทอง, ตรีผลา จะช่วยสลายก้อนนิ่วให้มีขนาดเล็กลง ทั้งยังอาจช่วยให้นิ่วหลุดออกเองได้ตามธรรมชาติ - ลดปัญหาปัสสาวะลำบาก
อาการนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ มักทำให้เกิดปัญหา ทั้งปัสสาวะไม่สุด, ปัสสาวะบ่อย, กลั้นปัสสาวะไม่ได้, ปัสสาวะแล้วเจ็บ ซึ่งยูเฮอร์เบิลจะช่วยลดอาการเหล่านี้ลงได้ - ลดโอกาสติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
สารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดใน Uherbal อาจช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อก่อโรค ซึ่งอาจลดโอกาสของการติดเชื้อลง - ดูแลต่อมลูกหมาก
มีการศึกษาพบว่า สารสกัดไลโคปีนและน้ำมันจากเมล็ดฟักทอง จะช่วยลดอาการปัสสาวะขัดที่เกิดจากต่อมลูกหมากโตได้ พร้อมทั้งยังอาจช่วยลดการเจริญเติบโต ของเนื้อเยื่อต่อมลูกหมากอย่างผิดปกติได้อีกด้วย - ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
สมุนไพรสลายนิ่ว สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดลงได้ ช่วยทำให้ปลายประสาททำงานดีขึ้น จึงสามารถควบคุมการทำงานของหูรูด และกล้ามเนื้อเรียบในกระเพาะปัสสาวะได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. เป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะห้ามกินอะไรบ้าง?
- อาหารที่มียูริกสูง
อย่างเช่น สัตว์ปีก, อาหารทะเล, เนื้อแดง, เครื่องในสัตว์, เหล้า, เบียร์, ยอดผัก จะทำให้เกิดการสะสมของนิ่วเพิ่มขึ้น - อาหารที่มีออกซาเลตสูง
นิ่วในกระเพาะปัสสาวะอันตรายไหม? ต้องดูว่า ควบคุมการทานอาหารที่มีออกซาเลตสูง อย่างช็อกโกแลต, กาแฟ, หน่อไม้, ถั่วเหลืองได้ดีแค่ไหน ถ้าลดปริมาณลงได้ โอกาสที่นิ่วจะมีขนาดใหญ่จนเป็นอันตราย ก็จะน้อยลง - อาหารที่มีโปรตีนสูง
เป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะห้ามกินอะไรบ้าง? หลายคนทานแต่โปรตีน ลดคาร์บเพื่อต้องการลีนหุ่น จึงทานแต่อกไก่, ปลาแซลมอน, ปลาทูน่า, ไข่, นม ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วได้
5. สรุป
อาการนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ มักทำให้เบ่งปัสสาวะลำบาก, ปัสสาวะบ่อย, กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือมีปัสสาวะปนเลือด ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ อาจทำให้เกิดการอุดกั้นจนไตวายเฉียบพลัน หรือเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดได้ จึงควรดูแลตัวเองด้วยสมุนไพร Uherbal ตั้งแต่วันนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดนิ่ว ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรง แบบที่คาดไม่ถึงได้เลยทีเดียว
บทความแนะนำ
กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะเล็ด กะปริบกะปรอย เสี่ยงโรคร้าย อันตรายกว่าที่คุณคิด! อ่านเพิ่มเติมในบทความนี้
