[ควรระวัง] 7 สาเหตุปัสสาวะขุ่น บ่งบอกโรคร้ายต่าง ๆ ที่ไม่อาจมองข้ามได้ พร้อมวิธีป้องกัน!

2.1 ไตอักเสบเฉียบพลัน (Acute Nephritic Syndrome)

กลุ่มโรคนี้เกิดจากการอักเสบ ของกลุ่มเส้นเลือดฝอยในไต (Glomerulus) ทำให้มีเซลล์เม็ดเลือดแดง, เม็ดเลือดขาว, เซลล์ของเนื้อเยื่อไต และอาจมีโปรตีน ปนออกมาในน้ำปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะมีสีขุ่น รวมถึงจะมีปัสสาวะออกน้อยลง, ตัวบวม และความดันโลหิตสูงขึ้น เช่น

• โรคหน่วยไตอักเสบเฉียบพลัน (Acute Glomerulonephritis, AGN) จากการติดเชื้อ
• โรคเนื้อเยื่อไตอักเสบเฉียบพลัน (Interstitial nephritis) ที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกัน
• โรคไตอักเสบลูปัส (Lupus nephritis) ในคนที่เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE)

2.2 ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (Urinary Tract Infection, UTI)

ปัสสาวะขุ่นมีตะกอนสีขาว รวมทั้งsปัสสาวะเป็นหนอง (Pyuria), ปัสสาวะมีเม็ดเลือดแดงปน (Hematuria) พบได้บ่อย จากการติdxดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ ทำให้เกิดโรคได้มากมาย เช่น กรวยไตอักเสบ, ท่อไตอักเสบ, กระเพาะปัสสาวะอักเสบ, ต่อมลูกหมากอักเสบ จนมีอาการปัสสาวะขัด, ปัสสาวะลำบาก, ปัสสาวะบ่อย ซึ่งหากติดเชื้อซ้ำบ่อย ๆ จะต้องตรวจหาความผิดปกติ ของโครงสร้างทางเดินปัสสาวะด้วย เช่น มีเนื้องอกมดลูก กดเบียดกระเพาะปัสสาวะ, มีเนื้องอกต่อมลูกหมาก, มีนิ่วในไต

2.3 ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually Transmitted Infection, STI)

อาการปัสสาวะขุ่น เกิดได้จากการติดเชื้อของระบบสืบพันธุ์ ทำให้มีหนองหรือสารคัดหลั่ง ออกมาทางท่อปัสสาวะ แล้วปนในน้ำปัสสาวะ โดยโรคที่พบบ่อยได้แก่ โรคหนองในแท้ (Gonorrhea), โรคหนองในเทียม (Chlamydia Trachomatis) ซึ่งอาจทำให้เกิดช่องคลอดอักเสบ, ท่อปัสสาวะอักเสบ จนทำให้เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์, เจ็บเวลาปัสสาวะ และคันที่อวัยวะเพศได้

2.4 การหลั่งอสุจิย้อนทาง (Retrograde Ejaculation)

เกิดจากกล้ามเนื้อหูรูดของกระเพาะปัสสาวะหย่อน ทำให้เมื่อผู้ชายถึงจุดสุดยอดแล้ว น้ำอสุจิจะหลั่งย้อนเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ แทนที่จะหลั่งออกข้างนอก บางครั้งเรียกว่า การหลั่งแห้ง (Dry orgasm) ซึ่งพบได้ในคนที่มีความผิดปกติของต่อมลูกหมาก, ระบบประสาทอัตโนมัติบกพร่อง เช่น โรคเบาหวาน, โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis) ซึ่งทำให้น้ำปัสสาวะขุ่นมีตะกอนสีขาวได้

2.5 มีนิ่วทางเดินปัสสาวะ (Urinary Tract Stones)

อาการปัสสาวะขุ่น เกิดได้จากนิ่วในทางเดินปัสสาวะ เช่น นิ่วในไต, นิ่วในท่อไต, นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ โดยส่วนใหญ่เกิดจากการสะสมของแคลเซียม ซึ่งจะตรวจพบว่ามีแคลเซียมในปัสสาวะ > 200 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนนิ่วที่ไม่ใช่แคลเซียมอย่าง นิ่วกรดยูริก, นิ่วซิสทีน, นิ่วสตรูไวท์ อาจต้องหาความบกพร่องของไต ที่ทำให้เกิดกลไกการควบคุมสารเหล่านี้ผิดปกติไป

2.6 มีผลึกปนในปัสสาวะ (Crystalluria)

ปัสสาวะขุ่นมีตะกอนสีขาว เกิดได้จากการมีผลึกของเกลือและแร่ธาตุชนิดต่าง ๆ เช่น แคลเซียมออกซาเลต, แคลเซียมฟอสเฟต, กรดยูริก ปนในปัสสาวะ ซึ่งอาจเกิดจากความผิดปกติของไต, ต่อมไร้ท่อ, เอนไซม์, การติดเชื้อ, การรับประทานอาหารโปรตีนสูง, การใช้ยาบางชนิด จนทำให้มีการตกผลึกในน้ำปัสสาวะได้

2.7 มีไขมันในปัสสาวะ (Lipiduria)

ปัสสาวะขุ่นขาวจากการมีไขมันปนในปัสสาวะ เกิดได้จากกลุ่มอาการเนโฟรติค (Nephrotic syndrome) เช่น ไตจากเบาหวาน (Diabetic nephropathy), โรค Minimal Change Disease (MCD) ที่ทำให้หน่วยไตทำงานบกพร่อง จนมีโปรตีนรั่วออกมาในปัสสาวะ ≥ 3.5 กรัมต่อวัน สังเกตได้จากปัสสาวะเป็นฟอง, ตัวบวม, มีไขมันในเลือดสูง และมักตรวจพบไขมัน, ผลึกไขมันปนอยู่ในปัสสาวะด้วย