10 อาการปวดท้อง สามารถบอกถึงโรคอะไรบ้าง ? เพื่อเตรียมตัวรับมือกับโรคต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

อาการปวดท้อง (Abdominal Pain) ถือเป็นความผิดปกติ ที่พบได้บ่อยเป็นอันดับต้น ๆ ในคนทุกเพศทุกวัย อาจมีอาการตั้งแต่เล็กน้อย หายเองได้ ไปจนถึงขั้นที่รุนแรงจนต้องผ่าตัด ซึ่งมีสาเหตุมากมายนับร้อยเลยทีเดียว 

ประเมินอาการปวดท้องเบื้องต้น ได้อย่างไร ?

ช่องท้อง เป็นโพรงขนาดใหญ่กลางลำตัว ที่บรรจุอวัยวะของระบบทางเดินอาหารเป็นหลัก แต่ก็ยังมีอวัยวะข้างเคียงอีกหลายระบบ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปวดท้องได้เช่นกัน

ประเมินอาการปวดท้องเบื้องต้น ได้อย่างไร ?
รูปภาพตำแหน่ง และอาการเบื้องต้น โรคต่างๆ

เบื้องต้นสามารถประเมินได้จากตำแหน่งดังนี้

ตำแหน่งอวัยวะในร่างกาย
ขวาบนตับ, ถุงน้ำดี, ท่อน้ำดี, ลำไส้, ไต
ลิ้นปี่อาการปวดท้องกระเพาะ, ตับอ่อน, หลอดอาหาร, ถุงน้ำดี
ซ้ายบนกระเพาะอาหาร, ตับอ่อน, ม้าม, ลำไส้, ไต
ขวาล่างไส้ติ่ง, ลำไส้, ปีกมดลูก, รังไข่
กลางล่างกระเพาะปัสสาวะ, มดลูก, ต่อมลูกหมาก
ซ้ายล่างลำไส้, ปีกมดลูก, รังไข่

10 อาการปวดท้องแบบต่างๆ บ่งบอกถึงโรคอะไรได้บ้าง ?

1)  ปวดจุกเสียดลิ้นปี่

อาการปวดลิ้นปี่ หรือท้องช่วงกลางด้านบน มักเป็นอาการปวดท้องกระเพาะ, แผลในกระเพาะอาหาร, กรดไหลย้อน ทำให้มีอาการปวดเสียด, ปวดแน่น, ท้องอืด, อิ่มก็ปวดหิวก็ปวด และคลื่นไส้อาเจียน

2)  ปวดแน่นชายโครงขวา

หากเป็นนิ่วในถุงน้ำดี จะทำให้มีอาการปวดจุก ๆ ปวดแน่น ๆ ขึ้นมาทันที และอาจปวดอยู่คงที่ 1 – 5 ชั่วโมง แล้วหายเอง มักเป็นหลังอาหาร ซึ่งถ้านิ่วหล่นมาอุดตันท่อน้ำดี ก็จะทำให้ถุงน้ำดีอักเสบ หรือท่อน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน จนทำให้มีไข้ ตัวเหลืองตาเหลืองได้

3)  ปวดบิดทั่วท้อง เป็นพัก ๆ

หากเป็นท้องเสีย ถ่ายเหลว จากลำไส้อักเสบหรืออาหารเป็นพิษ มักจะดีขึ้นได้ด้วยยาหรือสมุนไพรแก้ปวดท้อง แต่ถ้าเป็นอาการปวดจากลำไส้อุดตัน หรืออวัยวะภายในรั่วแตก อาการมักจะแย่ลง จนกลายเป็นปวดตลอดเวลา ซึ่งต้องผ่าตัดเท่านั้น

4)  ปวดตื้อสีข้างขึ้นมาทันที

ถ้านิ่วในไต ไหลลงมาจนกลายเป็นนิ่วในท่อไต จะทำให้มีอาการปวดท้องตื้อ ๆ บริเวณท้องด้านข้างอย่างรุนแรง ปวดทันทีทันใด ปวดที่สุดในชีวิต อาจเป็นนาน 10 – 15 นาที แล้วหาย และกลับมาเป็นอีกครั้ง บางคนอาจปวดร้าวมาที่ท้อง, ขาหนีบ และอัณฑะด้วย

5)  ปวดแน่นท้องช่วงบน ค่อนหลัง

อาการปวดแน่นท้องด้านบนข้างใดข้างหนึ่ง ค่อนไปทางด้านหลัง หรือบางครั้งอาจปวดหลัง ปวดสีข้าง แล้วปวดร้าวมาที่ท้อง เป็นภาวะที่บ่งบอกถึงกรวยไตอักเสบติดเชื้อ ทำให้มีไข้, ปัสสาวะขาวขุ่น, ปัสสาวะปนเลือด ซึ่งจะช่วยแยกออกจากอาการปวดท้องกระเพาะได้อย่างดี

6)  ปวดตื้อท้องน้อยทั่ว ๆ

อาการปวดที่ท้องน้อยทั่ว ๆ ปวดตื้อ ๆ ตลอดเวลา ระบุตำแหน่งที่ปวดชัดเจนไม่ได้ ปวดนานกว่า 48 ชั่วโมง มีไข้, ปัสสาวะขาวขุ่น, ตกขาวผิดปกติ, เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ ทานยาหรือสมุนไพรแก้ปวดท้องแล้วไม่ดีขึ้น ต้องนึกถึงภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบเป็นอันดับแรก

7)  ปวดกดเจ็บ ท้องน้อยด้านขวา

อย่างแรกที่ต้องนึกถึงทันที คือไส้ติ่งอักเสบ เริ่มต้นมักมีอาการปวดที่ท้องรอบสะดือนำมาก่อน จากนั้น 24 – 48 ชั่วโมง จะเริ่มย้ายมาปวดที่ท้องน้อยด้านขวา ส่วนใหญ่งอตัวแล้วจะปวดลดลง ซึ่งในเพศหญิงจะต้องนึกถึงการท้องนอกมดลูก และภาวะช็อกโกแลตซีสต์ไว้ด้วย

8)  ปวดแน่น ท้องน้อยด้านซ้าย

อาการปวดท้องแบบต่างๆ จะต้องนึกถึงปัญหาที่เกิดจากลำไส้ใหญ่ และลำไส้เล็กไว้เสมอ แต่ถ้าเป็นอาการปวด บริเวณท้องน้อยด้านซ้ายในเพศหญิง ก็ต้องนึกถึงภาวะท้องนอกมดลูกและช็อกโกแลตซีสต์ เหมือนกับการปวดท้องน้อยด้านขวา รวมถึงเนื้องอกลำไส้ ก็ยังเป็นได้เช่นกัน

9)  ปวดจี๊ดเวลาปัสสาวะ

อาการปวดท้องจี๊ด ๆ เวลาปัสสาวะ บ่งชี้ถึงความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะ และท่อปัสสาวะเป็นหลัก ถ้าปวดท้องร่วมกับปัสสาวะเป็นเลือด, ปัสสาวะบ่อย, ปัสสาวะเล็ด, กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ มักจะมีสาเหตุจากกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือต่อมลูกหมากอักเสบเฉียบพลัน แต่ถ้ามีอาการปัสสาวะไม่ออก, ปัสสาวะลำบาก, ปัสสาวะขัดร่วมด้วย คงต้องนึกถึงนิ่วในท่อปัสสาวะ, นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ หรือต่อมลูกหมากโตเพิ่มขึ้นด้วย

10)  ปวดหน่วงท้องน้อยและเชิงกราน ขณะปัสสาวะ

ต่อมลูกหมากอักเสบเรื้อรัง เป็นสาเหตุที่พบบ่อยในเพศชาย ส่วนในเพศหญิงจะต้องนึกถึงกระเพาะปัสสาวะอักเสบและมดลูกอักเสบ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอาการไข้, ปัสสาวะปนเลือด, ปัสสาวะแสบขัด, ปัสสาวะไม่สุด และอาจปวดร้าวไปอวัยวะข้างเคียงด้วย

UHERBAL สมุนไพรแก้ปวดท้อง ของคนทุกเพศทุกวัย

ยูเฮอร์เบิล อุดมไปด้วยสมุนไพรนานาชนิด จากหลากหลายสัญชาติ เช่น โสมเกาหลี, โสมอเมริกา, ไลโคปีน, แครนเบอรี, ถังเช่า, เห็ดหลินจือ, โตวต๋ง, ตังกุย, กระเจี๊ยบแดง, ตรีผลา จัดการปัญหานิ่ว และอาการปวดท้องแบบต่างๆ ด้วยสารพฤกษเคมีหลายสิบชนิด จึงช่วยดูแลไต, กระเพาะปัสสาวะ, ต่อมลูกหมาก, ถุงน้ำดี, ตับ และอวัยวะภายในได้อย่างดี

สรุป

อาการปวดท้อง สะท้อนถึงความผิดปกติได้มากมาย สามารถประเมินเบื้องต้นได้จากตำแหน่งที่ปวด และอาการแสดงอื่น ๆ ที่เกิดร่วมกัน จึงควรสังเกตตัวเองอยู่เสมอ จะได้รีบดูแลตั้งแต่เริ่มมีอาการ เพื่อลดความรุนแรงของโรคให้เหลือน้อยที่สุด

หากท่านใดมีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรือสนใจอยากดูแลสุขภาพด้านต่างๆ สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาได้ที่ LINE : @uherbal หรือติดต่อมาทางเบอร์โทรศัพท์ 081-614-7456 ได้เลย เรายินดีให้คำตอบกับทุกคำถาม เพื่อให้ท่านสามารถดำเนินกิจวัตรประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย และมีสุขภาพที่แข็งแรง

บทความแนะนำ

สัญญาณเตือน ! 10 สาเหตุอาการ ปัสสาวะมีเลือดปน ผู้ชาย – ผู้หญิง พร้อมวิธีรักษา บทความนี้มีคำตอบ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *